ทุนจีนเหิมเกริม

ทุนจีนเหิมเกริมที่นี่ไม่ใช่ลาวและ กัมพูชานะไม่แครคำสั่งของปปงลุยสร้าง คฤหาสน์หรูริมน้ำต่อขณะที่ป้ายคำสั่ง อายัดถูกทุนจีนปลดออกด้วยและแรายงานก่อ สร้างทั้งหมดนั้นเป็นจีน 100% เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเดี๋ยวเรามาฟังราย ละเอียดกันในคลิป นี้สวัสดีครับอยู่กับผมจ่า tns ยินดีต้อน รับสู่ช่องจ่า tns ครับสำหรับเรื่องราวใน วันนี้ครับเป็นเรื่องราวของทุนจีนครับที่ ต้องเรียกว่าไม่สนไม่แครสำนักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงินหรือปปงครับลุย สร้างคฤหาสน์หรูริมน้ำต่อขณะที่ป้ายคำ สั่งอายัดนั้นถูกปลดออกจากกรณีของบริษัท กลุ่มทุนจีนร่วมกับคนไทยได้มีการเข้าไป พัฒนาโครงการคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาบน ที่ดินประมาณ 30 ไร่ครับติดกับถนนสนามบิน น้ำและแลแม่น้ำเจ้าพระยาพัฒนาเป็นคฤหาสน์ เดิมเคยระบุว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 100 ล้านบาทล่าสุดก็มีการระบุเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาทและสูงสุดอาจจะถึง 700 ล้าน บาทโดยเป็นเดี่ยวหรู 5 ชั้นประมาณ 60 หลังซึ่งทุกหลังมีห้องใต้ดินและสระว่าย น้ำยังมีอาคาร 2 ชั้นเป็นอาคารพาณิชย์และ สำนักงานท่าเรือและเริ่มการก่อสร้างตั้ง แต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาตั้ง เป้าให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 หรือราวๆ 1 ปีต่อมาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาครับมีการเผยแพร่ภาพเจ้า หน้าที่ปปงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ ที่ได้มีการนำป้ายไปปิดประกาศการยึด ทรัพย์โครงการคฤหาสน์รู้ริมแม่น้ำ เจ้าพระยาเนื่องจากสำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงินหรือปปงนั่นแหละครับจะ ดำเนินการปิดประกาศยึดทรัพย์สินตามคำสั่ง คณะกรรมการธุรกรรมที่ย .13 ต่อมาเมื่อบ่ายวันที่ 3 ตุลาคมนะ ครับพบว่าโครงการนั้นยังคงมีการก่อสร้าง จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยหรือ รปภครับของโครงการก็ระบุว่าโครงการไม่ได้ หยุดการก่อสร้างส่วนกรณีที่ปปงได้มีการนำ ป้ายมาติดนั้นตนไม่ทราบเรื่องเนื่องจาก วันดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่โครงการส่วนผู้ จัดโครงการก็ได้กลับไปที่ประเทศจีนคาดว่า จะกลับมาเร็วๆ นี้สำหรับคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ย 193/6 7 นะครับพบว่าเป็นมติการประชุม คณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 11/26 เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการธุรกรรมนั้นได้พิจารณาเห็น ชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยว ข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อ โกงประชาชนการฉ้อโกงอันมีมีลักษณะที่เป็น ปกติธุระและความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการ กระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขาย หลักทรัพย์สำหรับคดีนายสลิตกับพวกนะครับ กรณีนี้สำนักงานปปงสืบสวนจากหนังสือร้อง เรียนของประชาชนซึ่งขอให้ช่วยดำเนินการ คืนเงินที่ถูกอายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร เมื่อตรวจสอบนะครับเพิ่มเติมแล้วก็พบว่า เป็นกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความ ผิดเกี่ยวกับการฉ้อกกมประชาชนโดยมีพฤติ การชักชวนให้โหลดแอปพลิเคชันเพื่อเข้าลง ทุนเทรดเหรียญดิจิทัลซึ่งดำเนินการเป็น ขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำครับต่างแต่หน้า ที่เปิดบัญชีธนาคารไว้เพื่อรองรับการโอน เงินของผู้เสียหายการสุ่มทัก Facebook ของผู้เสียหายหน้าที่พูดคุยชักชวนแจ้ง ความอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้เสียหายนะครับ หลงเชื่อและโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของ ผู้ต้องหาและยังมีการโอนเงินดังกล่าวต่อ ไปยังบัญชีของผู้ต้องหาอีกหลายบัญชีครับ ประกอบกับตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามี การโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดผ่าน บัญชีเงินฝากหลายบัญชีมีการถอนเงินสดและ นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดนั้นไป ซื้อทรัพย์สินหลายรายการมีบุคคลที่เกี่ยว ข้องทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในการโอนใน การรับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่ เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินอันเป็น ความผิดฐานฟอกเงินครับโดยคณะกรรมการ ธุรกรรมครับมีคำสั่งให้ยึดและอายะทรัพย์ สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดชั่วคราว จำนวน 52 รายการเช่นที่ดินห้องชุดและ บัญชีเงินฝากธนาคารมูลค่ากว่า 2,5 54 ล้านบาทครับตามคำสั่งของย 103/2556 7 และเราต้องย้อนกลับไปอีก เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานะครับได้เผยแพร่ ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอก เงินเรื่องให้ผู้เสียหายนั้นยื่นคำร้อง เพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่า เสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน และเมื่อล่าสุดครับวันที่ 4 ทางปปงนั้น ติดป้ายอายัดแล้วนะครับแต่ว่าทุนจีนนั้น ไม่สนครับแถมยังมีการปลดทิ้งสั่งเดินหน้า สร้างคฤหาสน์หรูติดแม่น้ำเจ้าพระยาต่อโดย มีคนงาครับผลัดกันเปลี่ยนหมุนเวียนเข้า ไซต์งานก่อสร้างตลอดเวลาจากการสังเกตครับ มีการพบว่าป้ายคำสั่งอายัดโครงการก่อ สร้างคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ได้ถูกปลดหายออกไปจากหน้าประตูทางเข้าไซต งานแล้วโดยบริษัทกลุ่มทุนจีนแห่งนี้นะ ครับได้เข้ามาทำงานในคฤหาสน์ริมแม่น้ำ เจ้าพระยาก็เมื่อตั้งแต่กุมภาพันธ์ที่ ผ่านมาครับและสำหรับกลุ่มทุนจีนดังกล่าว นะครับเริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคมในปี 2560 ครับด้วยทุนจดทะเบียน 1,500 ล้านบาททำ ธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จัดสรรที่ดินและบ้านซื้อขายบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ที่พักอาคารติดแม่น้ำ เจ้าพระยาการซื้อและการขาย อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตัวเองเพื่อการ พักอยู่อาศัยระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้ก็มีรายงานเพิ่มเติมอีกครับว่า โครงการการสร้างคฤหาสน์หรูแห่งนี้ครับใช้ แรงงานคนจีนเข้ามาทำงานก่อสร้างรถ 100% เลยในลักษณะแบบหมุนเวียนวีซ่านักท่อง เที่ยวครับลักษณะนี้คือคนไทยเราไม่ได้ อะไรเลยมีแต่เสียกับเสียกันทั้งนั้นเพราะ ว่าเงินทุนที่มาก็เพราะว่าเงินทุนที่นำมา สร้างเนี่ยก็มาจากการฟอกเงินการไปฉ่อโกง กันทั้งนั้นแถมแรงงานก่อสร้างเนี่ยก็เป็น ชาวจีนที่เข้ามาในประเทศไทยแบบวีซ่านัก ท่องเที่ยวผลัดกันเข้ามาทำคนนี้วีซ่าหมด ก็เอาคนใหม่เข้ามาปรับเปลี่ยนหมุนเวียน กันแบบนี้ไปเรื่อยๆโดยไม่มีแรงงานคนไทยย เลยจากการตรวจสอบคือแรงงานจีนแบบ 100% เลยครับขนาดมีป้ายติดอายัทรัพย์แล้วก็มี การถูกดึงออกนะครับแล้วก็ยังมีการก่อ สร้างคฤหาสน์แห่งนี้ต่อไปเป็นฟิแบบโสนโแ ครับใครจะมาทำอะไรกูไม่สนกูจะทำกูจะสร้าง ของกูก็ลองดูแล้วครับว่าแม้แต่ทุนจีน เนี่ยเหิมเกินมากแค่ไหนโดยเราก็จะเห็น ข่าวมาเรื่อยๆนะครับสำหรับทุนจีน 4 เทา เนี่ยที่ที่เข้ามาลงทุนเป็นการฟอกเงินใน ธุรกิจในเชิงแบบสีเทาก็จะเป็นทั้งคาสิโน เป็นรถบรรทุกโลจิสติกและการสร้าง อสังหาริมทรัพย์แบบนี้ะครับเหมือนไปเจอ ข่าวสำหรับทุนจีนนะที่ที่อ่าตอนนี้เนี่ย มีเข้ามาในไทยเยอะมากๆนะครับโดยเฉพาะร้าน อาหารที่จะพูดดังต่อไปนี้ก็คือปีหน้า เนี่ยในปี 2568 นี่ทุนจีนนะครับบุกพี่ เียบเลยระบุว่าอยู่ไทยนั้นสบายที่สุดแล้ว หรือแม้กระทั่งแต่ร้านอาหารย่านรัชดานะ ครับที่วันว่าเป็นแหล่งฟอกเงินด้วยได้มี การลงพื้นที่นะครับของกรรมาธิการที่ย่าน รัชดาครับว่าการก่อสร้างอาคารร้านอาหาร ของกลุ่มทุนจีนได้มีการตรวจสอบไปทั้งหมด 2 ล้านครับเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 1 ล้านพบ ว่าขายสินค้าไม่มีอยและได้ดำเนินคดีไป เรียบร้อยแล้วนอกจากนี้ครับยังพบว่ามีการ ก่อสร้างดัดแปลอาคารของร้านอาหารเป็นร้าน หมาล่าร้านชาบูซึ่งภายในร้านครับมีการ โฆษณาถึงพนันออนไลน์ด้วยจึงอยากจะฝาก เรื่องนี้ไปถึงผู้ว่ากทมให้กำชับสำนักออก แบบโยธาเพื่อให้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารก่อ สร้างเหล่านี้ในพื้นที่ของถนนรัชดา เพชรบุรีเลียบทางด่วนหรือแถวอาซในการดัด แปลงร้านอาหารอาคารทั้งหมดว่าได้รับ อนุญาตถูกต้องหรือไม่และอยากฝากไปถึงกรม พัฒนาธุรกิจการค้าเรื่องของการจดทะเบียน ของผู้ถือหุ้นทั้งหมดให้ตรวจสอบทั้งหมด ว่าผู้จดทะเบียนนั้นเป็นจริงหรือนอมินี เพราะจากการลงทุนที่ตรวจสอบมีคนไทยถือ หุ้นอยู่ประมาณ 50% ที่เหลือจะเป็นคนจีน ที่ถือหุ้นนายชัยชนะเดชเดโชนะครับส.ส นครศรีธรรมราชได้มีการให้สัมภาษณ์ถึงการ ลงพื้นที่ในครั้งนี้

No comments:

Post a Comment